บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 3
วันศุกร์ ที่ 27 มกราคม 2560
(เวลา 08.30-12.30)

ความรู้ที่ได้รับ
ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
เด็กที่มีลักษณะทางความบกพร่อง
เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา
(Children with Speech
and Language Disorders)
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการพูดและภาษา
ในวัยทารกมักเงียบผิดธรรมชาติ
ร้องไห้เบา ๆ และอ่อนแรง ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10
เดือน ไม่พูดภายในอายุ 2 ขวบ หลัง 3
ขวบแล้วภาษาพูดของเด็กก็ยังฟังเข้าใจยาก ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้ หลัง 5 ขวบ
เด็กยังคงใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา มีปัญหาในการสื่อความหมาย
พูดตะกุกตะกัก ใช้ท่าทางในการสื่อความหมาย
ความบกพร่องทางการพูด
1. ความบกพร่องในด้านการปรุงเสียง
1. ความบกพร่องในด้านการปรุงเสียง
-เสียงบางส่วนของคำขาดหายไป
"ความ" เป็น "คาม"
-ออกเสียงของตัวอื่นแทนตัวที่ถูกต้อง
"กิน" "จิน" กวาด ฟาด
-เพิ่มเสียงที่ไม่ใช่เสียงที่ถูกต้องลงไปด้วย
"หกล้ม" เป็น "หก-กะ-ล้ม"
-เสียงเพี้ยนหรือแปล่ง
"แล้ว" เป็น "แล่ว"
2. ความบกพร่องของจังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
-พูดไม่ถูกตามลำดับขั้นตอน
ไม่เป็นไปตามโครงสร้างของภาษา
-การเว้นวรรคตอนไม่ถูกต้อง
-อัตราการพูดเร็วหรือช้าเกินไป
-จังหวะของเสียงพูดผิดปกติ
-เสียงพูดขาดความต่อเนื่อง
สละสลวย
3. ความบกพร่องของเสียงพูด
-ความบกพร่องของระดับเสียง
-เสียงดังหรือค่อยเกินไป
-คุณภาพของเสียงไม่ดี
ความบกพร่องทางภาษา หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องซึ่งเกิดจากการพูดผิดปกติ
ในด้านความชัดเจนในการปรับปรุงแต่งระดับและคุณภาพของเสียง
จังหวะและขั้นตอนของเสียงพูด
1.
การพัฒนาการทางภาษาช้ากว่าวัย
-มีความยากลำบากในการใช้ภาษา
-มีความผิดปกติของไวยากรณ์และโครงสร้างของประโยค
-ไม่สามารถสร้างประโยคได้
-มีความบกพร่องทางเชาว์ปัญญา
อารมณ์ สมองผิดปกติ
-ภาษาที่ใช้เป็นภาษาห้วน ๆ
2. ความผิดปกติทางการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธิสภาพที่สมอง
โดยทั่วไปเรียกว่า
Dysphasia หรือ aphasia
-อ่านไม่ออก (alexia)
-เขียนไม่ได้ (agraphia )
-สะกดคำไม่ได้
-ใช้ภาษาสับสนยุ่งเหยิง
-จำคำหรือประโยคไม่ได้
-ไม่เข้าใจคำสั่ง
-พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้
เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
(Children with Physical and Health Impairments)
-เป็นเด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรง
มีปัญหาทางระบบประสาทมีความลำบากในการเคลื่อนไหว
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
-มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
-ท่าเดินคล้ายกรรไกร
-เดินขากะเผลก
หรืออึดอาดเชื่องช้า
-ไอเสียงแห้งบ่อย ๆ
-มักบ่นเจ็บหน้าอก
บ่นปวดหลัง
-หน้าแดงง่าย
มีสีเขียวจางบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้
-หกล้มบ่อย ๆ
-หิวและกระหายน้าอย่างเกินกว่าเหตุ
โรคลมชัก (Epilepsy)
เป็นลักษณะอาการที่เกิดเนื่องมาจากความผิดปกติของระบบสมอง มีกระแสไฟฟ้าที่ผิดปกติและมากเกินปล่อยออกมาจากเซลล์สมองพร้อมกัน
อาการชัก
1.การชักในช่วงเวลาสั้น ๆ (Petit Mal)
อาการเหม่อนิ่งเป็นเวลา 5-10วินาที มีการกระพริบตาหรืออาจมีเคี้ยวปาก เมื่อเกิดอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก เด็กจะนั่งเฉย
หรือเด็กอาจจะตัวสั่นเล็กน้อย
2.การชักแบบรุนแรง (Grand Mal)
เมื่อเกิดอาการชัก
เด็กจะส่งเสียง หมดความรู้สึก ล้มลง กล้ามเนื้อเกร็ง เกิดขึ้นราว 2-5 นาที
จากนั้นจะหาย และนอนหลับไปชั่วครู
3.อาการชักแบบ (Partial Complex)
มีอาการประมาณไม่เกิน 3 นาที เหม่อนิ่งเหมือนรู้สึกตัวแต่ไม่รับรู้และไม่ตอบสนองต่อคำพูด หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
และต้องการนอนพัก
4.อาการไม่รู้สึกตัว (Focal Partial)
เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะสั้น
เด็กไม่รู้สึกตัว อาจทำอะไรบางอย่างโดยที่ตัวเองไม่รู้ เช่น ร้องเพลง ดึงเสื้อผ้า เดินเหม่อลอย
แต่ไม่มีอาการชัก
5.ลมบ้าหมู (Grand Mal)
เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ
และหมดความรู้สึกในขณะชักกล้ามเนื้อเกร็งหรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น
การปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐาน ในกรณีเด็กมีอาการชัก
-จับเด็กนอนตะแคงขวาบนพื้นราบที่ไม่มีของแข็ง
-ไม่จับยึดตัวเด็กขณะชัก
-หาหมอนหรือสิ่งนุ่มๆรองศีรษะ
-ดูดน้ำลาย เสมหะ
เศษอาหารออกจากปาก เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่ง
-จัดเสื้อผ้าเด็กให้หลวม
-ห้ามนำวัตถุใดๆใส่ในปาก
-ทำการช่วยหายใจโดยวิธีการเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ
-ทำการช่วยหายใจโดยวิธีการเป่าปากหากเด็กหยุดหายใจ
ซี.พี. (Cerebral Palsy)
การเป็นอัมพาตเนื่องจากระบบประสาทสมองพิการ
หรือเป็นผลมาจากสมองที่กำลังพัฒนาถูทำลายก่อนคลอด ระหว่างคลอด หรือหลังคลอด การเคลื่อนไหว การพูด
พัฒนาการล่าช้า เด็กซีพี มีความบกพร่องที่เกิดจากส่วนต่าง ๆ ของสมองแตกต่างกัน
แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1.กลุ่มแข็งเกร็ง (spastic)
2.กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง (athetoid , ataxia)
3.
กลุ่มอาการแบบผสม
(Mixed)
กลุ่มแข็งเกร็ง (spastic)
spastic hemiplegia อัมพาตครึ่งซีก
spastic diplegia อัมพาตครึ่งท่อนบน
spastic paraplegiaอัมพาตครึ่งท่อนบน
spastic quadriplegia อัมพาตทั้งตัว
กลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเอง(athetoid , ataxia)
>>athetoid อาการขยุกขยิกช้า ๆ
หรือเคลื่อนไหวเร็วๆที่เท้า แขน มือ หรือที่ใบหน้าของ เด็กบางรายอาจมีคอเอียง
ปากเบี้ยวร่วมด้วย
>>ataxia มีความผิดปกติในการทรงตัวของร่างกาย
กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
กลุ่มอาการแบบผสม
(Mixed)
กล้ามเนื้ออ่อนแรง
เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้น ๆ เสื่อมสลายตัว เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่ จะมีความพิการซ้อนในระยะหลัง
คือ ความจำแย่ลง สติปัญญาเสื่อม

โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ
-ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น
เท้าปุก (Club Foot) กระดูกข้อสะโพกเคลื่อน
อัมพาตครึ่งท่อนเนื่องจากกระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด (Spina Bifida)
-ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการด้วยโรคติดเชื้อ
(Infection) เช่น วัณโรค
กระดูกหลังโกง กระดูกผุ เป็นแผลเรื้อรังมีหนอง เศษกระดูกผุ
-กระดูกหัก ข้อเคลื่อน
ข้ออักเสบ


โปลิโอ
มีอาการกล้ามเนื้อลีบเล็ก
แต่ไม่มีผลกระทบต่อสติปัญญา ยืนไม่ได้
หรืออาจปรับสภาพให้ยืนเดินได้ด้วยอุปกรณ์เสริม เกิดจากเชื้อไวรัสเข้าทางช่องปากมากับพวกน้ำ
โรคกระดูกอ่อน
เกิดจากกระดูกไม่แข็งแรง มีลักษณะ ไหล่กว้าง ตัวสั้น ขาโก่ง
โรคศีรษะโต
เกิดจากน้ำในสมองไม่สามารถไหลสู่ร่างกายได้ ทำให้เก็บไว้ที่สมอง อาจรักษาโดย การเจาะศีรษะ
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
เกิดจากเชื้อไวรัส รูมาตอยด์ ทำให้ข้อนิ้วเบี้ยวผิดรูป ผู้หญิงมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ชาย 5 เท่า
โรคอื่นๆ เช่น
โรคระบบทางเดินหายใจ
โรคเบาหวาน
โรคหัวใจ
โรคมะเร็ง
เลือดไหลไม่หยุด
ตัวอย่างลักษณะคนที่มีความบกพร่อง แต่สามารถใช้ชีวิตได้ และมีความสามารถมากมาย
แขนขาด้วนแต่กำเนิด (Limb Deficiency)
Lena
Maria
Nick
Vujicic
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
ได้รับความรู้เด็กพิเศษทั้ง 9 ประเภท ทราบถึงลักษณะ ทำให้เราเห็นภาพและนำไปใช้ได้ ซึ่งเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันในแต่ละโรค สามารถนำความรู้ไปใช้ได้ในการสอน
ประเมินตนเอง
ตั้งใจเรียน มาเรียนตรงเวลา มีความสุข
ประเมินเพื่อน
เพื่อนมีกล้าแสดงออก ในการทำบทบาทสมมติ ตั้งใจเรียน ร่วมกิจกรรมได้ดี
ประเมินอาจารย์
อาจารย์อธิบายเนื้อหาได้กระชับ เข้าใจง่าย มีวีดิโอให้ดูหลากหลาย ทำให้เราเพลิดเพลินและเห็นภาพจริง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น