วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 2

วันศุกร์ ที่ 20 มกราคม 2560

 (เวลา 08.30-12.30)


ความรู้ที่ได้รับ

ประเภทของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความสามารถสูง
มีความเป็นเลิศทางสติปัญญา หรือ เรียกว่า “เด็กปัญญาเลิศ”
2.  กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความบกพร่อง

เด็กปัญญาเลิศ (Gifted Child)
คือ เด็กที่มีความสามารถทางสติปัญญา มีความถนัดเฉพาะทางสูงกว่าเด็กในวัยเดียวกัน 

คิม อึงยอง Kim Ung-yongชาวเกาหลี  มีระดับสติปัญญา (IQ) สูงที่สุดในโลกที่ระดับ 210



ลักษณะของเด็กปัญญาเลิศ

-พัฒนาการทางร่างกายและจิตใจสูงกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
-เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
-อยากรู้อยากเห็นอย่างจริงจัง ชอบซักถาม
-มีเหตุผลในการแก้ปัญหา  การใช้สามัญสำนึก
-จดจำได้รวดเร็วและแม่นยำ
-มีความรู้ ใช้คำศัพท์เกินวัย
-มีความคิดริเริ่ม มีวิธีการคิดและแนวคิดแปลกๆ
-เป็นคนตื่นตัว เฉียบแหลม ว่องไว และช่างสังเกต
-มีแรงจูงใจ และมีความมานะบากบั่นมีความจริงจังในการทำงาน
-ชอบแสวงหาสิ่งท้าทายความคิดความอ่าน

เด็กปัญญาเลิศมักชอบทำสิ่งเหล่านี้

-ตั้งคำถาม 

-เรียนรู้สิ่งที่สนใจ
-ชอบอยู่กับผู้ใหญ่หรือเด็กที่โตกว่า
-อยากรู้อยากเห็น ชอบคาดคะเน
-เบื่อง่าย  
-ชอบเล่า 
-ติเตียนผลงานของตน 

กลุ่มเด็กที่มีลักษณะทางความบกพร่อง


1.เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา
2.เด็กที่บกพร่องทางการได้ยิน
3.เด็กที่บกพร่องทางการเห็น
4.เด็กที่บกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
5. เด็กที่บกพร่องทางการพูดและภาษา
6. เด็กที่บกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
7. เด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้
8. เด็กออทิสติก
9. เด็กพิการซ้อน

 เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา (Children with Intellectual Disabilities)

หมายถึง เด็กที่มีระดับสติปัญญาหรือเชาว์ปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยเมื่อเทียบเด็กในระดับอายุเดียวกัน
มี 2 กลุ่ม คือ เด็กเรียนช้า และเด็กปัญญาอ่อน

เด็กเรียนช้า
  - สามารถเรียนในชั้นเรียนปกติได้
  - เด็กที่มีความสามารถในการเรียนล่าช้ากว่าเด็กปกติ
  - ขาดทักษะในการเรียนรู้
  - มีความบกพร่องทางสติปัญญาเพียงเล็กน้อย
  - มีระดับสติปัญญา (IQ) ประมาณ 71-90

เด็กปัญญาอ่อน
  - ระดับสติปัญญาต่ำ
  - พัฒนาการล่าช้าไม่เหมาะสมกับวัย
  - มีพฤติกรรมการปรับตนบกพร่อง
  - อาการแสดงก่อนอายุ 18                                                         

แบ่งตามระดับสติปัญญา (IQ) ได้ 4 กลุ่ม

1. เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนักมาก IQ ต่ำกว่า 20
  - ไม่สามารถเรียนรู้ทักษะด้านต่าง ๆ ได้เลย
  - ต้องการเฉพาะการดูแลรักษาพยาบาล

2. เด็กปัญญาอ่อนขนาดหนัก IQ 20-34

   -ไม่สามารถเรียนได้ ต้องการเฉพาะการฝึกหัดการช่วยเหลือตัวเองในกิจวัตรประจำวันเบื้องต้นง่าย ๆ
   -เรียนในระดับประถมศึกษาได้ 
   -สามารถฝึกอาชีพและงานง่าย ๆ ได้ 
   -เรียกโดยทั่ว ๆ ไปว่า E.M.R (Educable Mentally Retarded) 
   -กลุ่มนี้เรียกโดยทั่วไปว่า C.M.R (Custodial Mental Retardation) เท่านั้น

3. เด็กปัญญาอ่อนขนาดปานกลาง IQ 35-49
  - พอที่จะฝึกอบรมและเรียนทักษะเบื้องต้นง่าย ๆ ได้
  - สามารถฝึกอาชีพ หรือทำงานง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความละเอียดลออได้
  - เรียกโดยทั่วไปว่า T.M.R (Trainable Mentally Retarded)

 4. เด็กปัญญาอ่อนขนาดน้อย IQ 50-70
   -เรียนในระดับประถมศึกษาได้
   -สามารถฝึกอาชีพและงานง่าย ๆ ได้
   -เรียกโดยทั่ว ๆ ไปว่า E.M.R (Educable Mentally Retarded


ลักษณะของเด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา

ไม่พูด หรือพูดได้ไม่สมวัย
ช่วงความสนใจสั้น วอกแวก
ความคิด และอารมณ์ เปลี่ยนแปลงง่าย รอคอยไม่ได้
ทำงานช้า
รุนแรง ไม่มีเหตุผล
อวัยวะบางส่วนมีรูปร่างผิดปกติ กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน
ช่วยตนเองได้น้อยกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

ดาวน์ซินโดรม Down Syndrome




สาเหตุ ความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 21 ที่พบบ่อยคือโครโมโซมคู่ที่21 เกินมา 1 แท่ง 

 อาการ
ศีรษะเล็กและแบน  คอสั้น
หน้าแบน ดั้งจมูกแบน
ตาเฉียงขึ้น ปากเล็ก
ใบหูเล็กและอยู่ต่ำ รูหูส่วนนอกจะตีบกว่าปกติ
เพดานปากโค้งนูน ขากรรไกรบนไม่เจริญเติบโต
ช่องปากแคบ ลิ้นยื่น ฟันขึ้นช้าและไม่เป็นระเบียบ
มือแบนกว้าง นิ้วมือสั้น
เส้นลายมือตัดขวาง นิ้วก้อยโค้งงอ
           ช่องระหว่างนิ้วเท้าที่ 1 และ 2 กว้าง
มีความผิดปกติในระบบต่างๆ ของร่างกาย
บกพร่องทางสติปัญญาระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
อารมณ์ดีเลี้ยงง่าย ร่าเริง เป็นมิตร
มีปัญหาในการใช้ภาษาและการพูด
อวัยวะเพศมักเจริญเติบโตไม่เต็มที่ทั้งในชายและหญิง

 การตรวจวินิจฉัยก่อนคลอดกลุ่มอาการดาวน์

การเจาะเลือดของมารดาในระหว่างที่ตั้งครรภ์
อัลตราซาวด์  
การตัดชิ้นเนื้อรก
การเจาะน้ำคร่ำ  


 เด็กที่บกพร่องทางการได้ยิน (Children with Hearing Impaired)

 หมายถึง เด็กที่มีความบกพร่อง หรือสูญเสียการได้ยิน เป็นเหตุให้การรับฟังเสียงต่างๆ ได้ไม่ชัดเจน มี 2 ประเภท คือ เด็กหูตึง และ เด็กหูหนวก

เด็กหูตึง
  หมายถึง เด็กที่สูญเสียการได้ยิน แต่สามารถรับข้อมูลได้ โดยใช้เครื่องช่วยฟังจำแนกกลุ่มย่อยได้ 4 กลุ่ม
1. เด็กหูตึงระดับน้อย ได้ยินตั้งแต่ 26-40 dB 
2. เด็กหูตึงระดับปานกลาง ได้ยินตั้งแต่ 41-55 dB
3. เด็กหูตึงระดับมาก ได้ยินตั้งแต่ 56-70 dB 
4. เด็กหูตึงระดับรุนแรง ได้ยินตั้งแต่ 71-90 dB 

เด็กหูหนวก 

- เด็กที่สูญเสียการได้ยินมากถึงขนาดที่ทำให้หมดโอกาสที่จะเข้าใจภาษาพูดจากการได้ยิน
- เครื่องช่วยฟังไม่สามารถช่วยได้
- ไม่สามารถเข้าใจหรือใช้ภาษาพูดได้ 
- ระดับการได้ยินตั้งแต่ 91 dB ขึ้นไป


ลักษณะของเด็กที่บกพร่องทางการได้ยิน
-ไม่ตอบสนองเสียงพูด เสียงดนตรี มักตะแคงหูฟัง
-ไม่พูด มักแสดงท่าทาง
-พูดไม่ถูกหลักไวยากรณ์
-พูดด้วยเสียงแปลก มักเปล่งเสียงสูง
-พูดด้วยเสียงต่ำหรือด้วยเสียงที่ดังเกินความจำเป็น
-เวลาฟังมักจะมองปากของผู้พูด หรือจ้องหน้าผู้พูด
-รู้สึกไวต่อการสั่นสะเทือน และการเคลื่อนไหวรอบตัว
-มักทำหน้าที่เด๋อเมื่อมีการพูดด้วย

เด็กที่บกพร่องทางการเห็น(Children with Visual Impairments)

ลักษณะของเด็กบกพร่องทางการเห็น
-เดินงุ่มง่าม ชนและสะดุดวัตถุ
-มองเห็นสีผิดไปจากปกติ 
-มักบ่นว่าปวดศีรษะ คลื่นไส้ ตาลาย คันตา 
-ก้มศีรษะชิดกับงาน หรือของเล่นที่วางอยู่ตรงหน้า 
-เพ่งตา หรี่ตา หรือปิดตาข้างหนึ่ง เมื่อใช้สายตา 
-ตาและมือไม่สัมพันธ์กัน 
-มีความลำบากในการจำ และแยกแยะสิ่งที่เป็นรูปร่างทางเรขาคณิต 

เด็กตาบอด 
 เด็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้เลย หรือมองเห็นบ้าง ต้องใช้ประสาทสัมผัสอื่นในการเรียนรู้ มีสายตาข้างดีมองเห็นได้ในระยะ 6/60 , 20/200 ลงมาจนถึงบอดสนิท มีลานสายตาโดยเฉลี่ยอย่างสูงสุดแคบกว่า 5 องศา
เด็กตาบอดไม่สนิท
เด็กที่มีความบกพร่องทางสายตา สามารถมองเห็นบ้างแต่ไม่เท่ากับเด็กปกติ เมื่อทดสอบสายตาข้างดีจะอยู่ในระดับ 6/18, 20/60, 6/60, 20/200 หรือน้อยกว่านั้น มีลานสายตาโดยเฉลี่ยอย่างสูงสุดกว้างไม่เกิน 30 องศา

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
ได้รู้ประเภทของเด็กพิเศษ ทำให้ทราบว่าลักษณะเป็นอย่างไร นำไปใช้ได้ในสังเกต และเป็นความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้
ประเมินตนเอง 
แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจจดบันทึกเพิ่มเติม 

ประเมินเพื่อน 
เพื่อนๆตั้งใจเรียน มีการพูดคุยซักถามอาจารย์ ไม่ส่งเสียงดัง

ประเมินอาจารย์ 
อาจารย์อบอุ่น อธิบายเข้าใจง่าย มีภาพและกิจกรรมให้ทำ บรรยากาศในห้องมีความสุข


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น